มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย รองมาจากมะเร็งเต้านม ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10,000 คน หรือวันละ 27 คน
ในแต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,200 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน ทั้ง ๆ ที่เป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ ร้อยละ 80 ของมะเร็งปากมดลูกพบในผู้หญิงช่วงอายุ 30-60 ปี บางคนเป็นแม่ของลูกเล็กๆวัยน่ารักถึงช่วงวัยรุ่น บางคนเป็นลูก กำลังทำงาน สร้างครอบครัว ถ้าแม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก สมาชิกที่เหลือในครอบครัวจะเดือดร้อนอย่างมาก
ไม่อยากเป็น ไม่อยากเสี่ยง เรามาเรียนรู้ถึงสาเหตุของมะเร็งร้ายนี้ ได้ที่นี่
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งหลายชนิดยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว ฯลฯ มะเร็งบางชนิดเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น มะเร็งตับ อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี การติดเชื้อพยาธิ์ใบไม้ในตับจากการกินอาหารสุกๆดิบๆ การกินสารพิษอะฟล่าทอกซินจากเชื้อราดำในขนมปัง ถั่วลิสงฯลฯ และสารพิษอื่นๆในอาหาร เป็นต้น
แต่มะเร็งปากมดลูก ทางการแพทย์พิสูจน์ทราบสาเหตุแน่นอนแล้วว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสอย่างเดียวโดดๆ ที่ชื่อ ฮิวแมนแพปพิลโลมาไวรัส( human papillomavirus) เรียกย่อ ๆ ว่า “HPV” เชื้อไวรัสนี้ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีเชื้อไวรัสนี้ที่อวัยวะเพศ ดังนั้นแนวทางการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสนี้จึงไม่น่าจะยาก คงไม่ถึงกับต้องงดการทำกิจกรรมทางเพศ แต่ถ้าจะมีหรือจำเป็นต้องมีก็ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เช่น มีคู่นอนคนเดียว หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย ใช้ถุงยางอนามัยคุมกำเนิด และชักชวนคู่นอนให้มีคู่นอนคนเดียวด้วย เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แก่
1. ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายหญิง
ได้แก่
- การมีคู่นอนหลายคน ความเสี่ยงสูงขึ้นตามจำนวนคู่นอนที่เพิ่มขึ้น
- การมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
- การสูบบุหรี่
- มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ เริม ซิฟิลิส และหนองใน เป็นต้น
2. ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายชาย
เนื่องจากการติดเชื้อเอชพีวี(HPV) ส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ จึงกล่าวได้ว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีเชื้อเอชพีวี (ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่มีอาการหรือตรวจไม่พบเชื้อ) แม้เพียงครั้งเดียวก็มีโอกาสติดเชื้อเอชพีวีและเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายชาย ได้แก่
- สตรีที่มีคู่นอนเป็นมะเร็งองคชาติ
- เคยมีภรรยาเป็นมะเร็งปากมดลูก เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผ่านประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่อายุน้อยหรือมีคู่นอนหลายคน
แหล่งข้อมูล
ศ.นพ.จตุพล ศรีสมบูรณ์,
สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย : Thai Gynecologic Cancer Society
http://www.tgcsthai.com/dataview.php?id=240&code=KP
รูปประกอบจาก
http://www.babble.com/babble-voices/at-large-meagan-francis/2013/05/29/6-things-moms-need-to-know-about-hpv-cervical-health/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น