วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

“โรคกรดไหลย้อน ” ดูแลอย่างไร ให้หายขาด? โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล


เราเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของโรคนี้กันแล้วนะครับ คนไข้ที่เป็นโรคนี้มักจะเบื่อมากในการรักษา เพราะต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการดำรงชีวิตหลายอย่าง แล้วก้อทำไมตอนรักษาก้อค่อยๆดีขึ้น แต่ทำไมหมดยา กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมก้อกลับมาแสบร้อนทางเดินอาหารได้อีก “ทำอย่างไร จะหายขาดนะ?” ตอบง่ายมาก โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ หากเราเริ่มดูแลตนเองอย่าให้ไปความเสี่ยงที่กรดในกระเพาะอาหารกลับมาซ้ำเติมได้อีก อยากหายขาดมาฟังคำแนะนำจากเภสัชกรได้เลยครับ

กรดไหลย้อนจะหายได้ ไม่มีอาการ
อาการน่าเบื่อต่างๆที่เราเคยประสบมา จะหายได้ ก้อต่อเมื่อเราได้รับการดูแล ทั้งการปรับพฤติกรรม การใช้ยา ซึ่งจะมีผลดีทำให้
·      เจ้าตัวการ คือไปลดกรดในกระเพาะอาหาร มีไม่มากเกินไปจนลามไปกัดเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ
·      หลอดอาหารที่เคยอักเสบ ปวด ร้อน ค่อยๆหมดอาการลง และ…
·      ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้แก่การตีบแคบของหลอดอาหาร

เปลี่ยนตนเองได้ โรคนี้ก้อหายได้
ทำไมโรคนี้จึงเป็นกันเย้อะ ได้เล่ามาแล้วในตอนแรกๆ และทำไมระหว่างรักษา เราจึงหายดี เนื่องจากตอนนั้นเจ็บมาก ก้อเลย ปรับนิสัยตนเองให้ต้องกินข้าวให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงการกินมื้อดึก ที่มากที่สุดคือการเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารซึ่งคุ้นเคยกับรสชาติแซ่บๆ หรือมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์  ทำได้หมดขอให้หายเต้อะ แต่พออาการดีขึ้น เราก้อกลับไปมีนิสัยเหมือนเดิม ให้มีกรดไหลย้อนมาทำลายหลอดอาหารได้อีก

ดังนั้น “เปลี่ยน” คือปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพื่อไม่ให้โรคนี้กลับมาเป็นซ้ำครับ เรามาดูว่าแนวทางการดูแลตนเองของผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะกรดไหลย้อนให้หายขาดมีอะไรบ้าง อ้อ รู้แล้วเฉยๆ ก้อไม่มีประโยชน์นะครับ ต้องลงมือทำเพื่อรักษาร่างกายเรา ให้ชีวิตมีความสุขต่อไปด้วย

ภาพประกอบ: ตัวอย่างอาหาร ในแต่ละมื้อ สำหรับโรคนี้ จาก http://www.digestive-motility.com/ediciones/JAN2006-21/images/diet_gerd.jpg
1.           ปรับเปลี่ยนแบบแผนการกินอาหาร
·      กินอาหารแบบ ให้แต่ละมื้อละน้อยๆ โดดยแบ่งให้วันละประมาณ 4-6 มื้อ
·      หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก ทำให้กระเพาะเราเหนื่อย อย่างเช่นอาหารประเภทไขมันเยอะๆ และรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ
·      อันนี้ยาก แต่ต้องทำ คือลดการดื่มชา กาแฟ หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
·      หยุดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
·      กินข้าวให้กินช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด และงดอาหารทุกชนิด ไม่ว่าหนักหรือเบาก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง รวมไปถึงของว่าง snacksทั้งหลายด้วยนะครับ เหตุเพราะของคบเคี้ยวจะยิ่งทำให้อาการแสดงของ GERDแย่ลง
ภาพประกอบ: ท่านอนที่ลดการไหลกลับขึ้นมาของกรด มาจาก http://www.acidrefluxdiseasemedicine.info
·      หลังกินอาหารใหม่ๆ ควรเดินเบาๆให้ย่อยได้ดีขึ้น ภายหลังการกินอาหาร 1-2 ชั่วโมง ควรอยู่ในท่านั่ง ห้ามนอน
·      หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือทำให้เกิดอาการปวดแผลในกระเพาะอาหารทั้งหลาย
·      สุดท้าย ลดน้ำหนัก จะช่วยลดแรงดันในช่องท้องเพราะคนอ้วนจะมีความดันในช่องท้องสูงทำให้กรดไหลย้อนได้มาก

2.           ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
·      งดการสูบบุหรี่ บุหรี่จะทำให้เกิดกรดมาก
·      หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้อง
·      หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรืออยู่ในท่าโค้งตัวนาน
·      ไม่ควรนอนราบให้นอนยกศีรษะสูง โดยยกหัวเตียงให้สูงขึ้นจากพื้น ประมาณ 6-8 นิ้ว  (15 -20 เซนติเมตร
·      ออกกำลังกายสม่ำเสมอและพยายามหลีกเลี่ยงความเครียด

การรักษาโรคนี้ว่ายากแล้ว แต่การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำไม่ยากเลย หากเราเอาใจใส่เปลี่ยนนิสัยการกินที่เป็นต้นเหตุ และปรับรูปแบบการใช้ชีวิตภายหลังที่หายแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้อีก ทำได้ตามนี้เราก้อจะกลับไปกินหรือนอนหลับอย่างมีความสุขตลอดไป และไปเที่ยวสงกรานต์อย่างมีความสุขไม่ต้องกลัวแสบท้องอีกต่อไป

อยากทราบทุกคำตอบของเรื่องยา กรุณาส่งซองคำถามของคุณมาได้ที่อีเมล์ utaisuk@gmail.com หรือแวะไปที่ Facebook “UTAI SUKVIWATSIRIKUL” หรือ “PHARMATREE” ยินดีตอบรับทุกท่านครับ

แหล่งข้อมูล
เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 12 มีค. 2555 
E-mail: utaisuk@gmail.com Facebook: “UTAI SUKVIWATSIRIKUL

ห้ามนำบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ โดยผู้เขียนไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์ ให้นำไปเผยแพร่เป็นวิทยาทานหรือเพื่อการศึกษาเท่านั้นผู้ประกอบการเว็บไซต์ต้องยึดหลักความเคารพและคำนึงถึงลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์งานเขียนและจริยธรรมทางธุรกิจ

การนำเอาบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ ซึ่งผลิตขึ้นโดยผู้เขียนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและผลิตซ้ำเพื่อเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาและ Copy url address ไปด้วยเพื่อให้ผู้อ่านสามารถลิ้งค์กลับมาอ่านบทความจากเว็บไซต์ ของผู้เขียนได้โดยตรง

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้คุณนำไปใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณารับคำปรึกษาได้โดยตรงจากเภสัชกรร้านยาใจดีที่พร้อมดูแลสุขภาพพ่อแม่พี่น้องนะครับ

รูปประกอบจาก
gerd-daily-habits. Credit: Getty Images
health.com

Joel J Heidelbaugh, MDUMHS GERD Guideline, January 2007, Family Medicine, Regents of the University of Michigan, cme.med.umich.edu/pdf/guideline/GERD07.pdf
Updated Guideline for the Diagnostic and  Treatment of Gastroesophageal Reflux Disease (GERD). , Journal of Pediatric Gastroenterology and Nutrition, 49:498–547 # 2009, European Society for Pediatric Gastroenterology, Hepatology, and Nutrition and North American Society for Pediatric Gastroenterology, Hepatology, and Nutrition
Clinical Standard for Adult Gastroesophageal Reflux (GERD), The Madigan Army Medical Center - Quality Services Division, Revised:  October 2001, http://www.mamc.amedd.army.mil/clinical/standards/gerd_alg.htm
Evidence-Based GERD Guidelines Released By The American Gastroenterological Association, Article Date: 22 Oct 2008, http://www.medicalnewstoday.com/releases/126415.php
Gastroesophageal Reflux Disease (GERD, Acid Reflux, Heartburn), Medicinenet., http://www.medicinenet.com/gastroesophageal_reflux_disease_gerd/article.htm
Dr. Alan L Ogilivie, Gastro-oesophageal reflux (acid reflux), http://www.netdoctor.co.uk/diseases/facts/gastrooesophagealreflux.htm
Acid Reflux (GERD) Drug Information, HealthCentral.com, http://www.healthcentral.com/acid-reflux/find-drug.html
รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน, โรคกรดไหลย้อน ตอนที่ 1 และ 2,   ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา , คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=294, http//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=295
รศ.นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์,กรดไหลย้อน.....ภัยเงียบวัยทำงาน, สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ Faculty of Medicine Siriraj Hospital, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=726
รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน,สิ่งที่ผู้ป่วยควรทราบเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน , ตอนที่ 1 และ 2, ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=631 , http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=632
สุวรรณา  กิตติเนาวรัตน์, ภาวะกรดไหลย้อน  (GERD), คม.(นิเทศการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร), ET., วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย, http://www.google.com/url?sa=t&source=web&cd=28&ved=0CEgQFjAHOBQ&url=http%3A%2F%2Fimages.cdri.multiply.multiplycontent.com%2Fattachment%2F0%2FS3P98AooCkQAABASlcA1%2FGERD.doc%3Fkey%3Dcdri%3Ajournal%3A16%26nmid%3D81114654&ei=GluGTpbZDsiHrAej-My-Dw&usg=AFQjCNE5a-l7Y0sWz1I6--uOELkvO0XzSQ&sig2=DXEX73ScA--r3T9nqAmuJg
การรักษาโรคกรดไหลและยาที่ใช้, http://www.gerdthai.com/gerd.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น