คุณแม่คุณพ่อที่วางแผนการตั้งครรภ์คงรู้อยู่แล้วว่าการเข้าใจวงจรการตกไข่
จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ การที่เราจะทราบว่าช่วงเวลาไหนที่เหมาะและมีโอกาสสมหวังได้มาที่สุดพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์แล้ว
เราควรเรียนรู้วิธีใช้ชุดทดสอบหาระยะการตกไข่เพื่อหาระยะเวลาช่วงเวลาไข่ตก ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าเวลาใดที่เรามีโอกาสตั้งครรภ์สูงที่สุด
ชุดทดสอบการตกไข่ด้วยตนเองแบบจุ่มปัสสาวะ
(One Step Ovulation Test: Urine Test Strip)
ชุดทดสอบนี้ ใช้สำหรับตรวจสอบความเข้มเข้นของฮอร์โมน LH (Luteinizing Hormone) ในปัสสาวะ เพื่อทำนายระยะเวลาตกไข่ในสตรี โดยชุดทดสอบจะตรวจจับความเข้มข้น LH ที่ขึ้นสูง (LH surge) และกระตุ้นให้เกิดการตกไข่ภายใน 36 ช.ม. การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าวนับจากตรวจพบผลเป็นบวกในครั้งแรก จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูง
การทำงานของชุดทดสอบ
ลูทิไนซิ่งฮอร์โมน (Luteinizing HORMONE: LH) ที่อยู่ในปัสสาวะของสตรีทั่วไปจะ
เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางของรอบเดือน การเพิ่มขึ้นของ LH นี้ช่วยกระตุ้นการตกไข่ การตกไข่นี้จะเกิดขึ้นภายในเวลา 36 ชั่วโมง นับจากการตรวจพบ LH SURGE ซึ่งก็คือผลทดสอบเป็นบวก
เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางของรอบเดือน การเพิ่มขึ้นของ LH นี้ช่วยกระตุ้นการตกไข่ การตกไข่นี้จะเกิดขึ้นภายในเวลา 36 ชั่วโมง นับจากการตรวจพบ LH SURGE ซึ่งก็คือผลทดสอบเป็นบวก
เมื่อนำชุดทดสอบถูกจุ่มลงในตัวอย่างปัสสาวะ การซึมผ่านตามรูเล็กก็จะนำเอาตัวอย่างลอดผ่านแผ่นเยื่อออกมา เมื่อ LH ในตัวอย่างซึมผ่านถึงบริเวณเขตทดสอบก็จะทำให้เกิดแถบสีขึ้น (Test Line) หากไม่มีแถบสีนี้ปรากฏก็แสดงว่าผลการทดสอบเป็นลบ
ผลทดสอบจะถูกต้องตามขั้นตอน ก็ต่อเมื่อมีแถบสีปรากฏในเขตควบคุม (control Line) ชุดทดสอบนี้สามารถตรวจสอบการตกไข่ด้วยความแม่นยำในระดับสูง เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ในการช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ เนื่องจากช่วยระบุเวลาที่ไข่จะพบกับอสุจิในสภาพการณ์ที่เหมาะสมที่สุดได้
การตกไข่นั้นอาจไม่เกิดขึ้นเนื่องจากสภาพต่างๆ อารมณ์ และปัจจัยอื่นๆ จึงไม่อาจ
สันนิษฐานว่าการตกไข่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาเดียวกันหลังการมีประจำเดือน ดังนั้นจึงควร
ทดสอบซ้ำในแต่ละรอบประจำเดือน
สันนิษฐานว่าการตกไข่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาเดียวกันหลังการมีประจำเดือน ดังนั้นจึงควร
ทดสอบซ้ำในแต่ละรอบประจำเดือน
ส่วนประกอบของอุปกรณ์ทดสอบ
1. ซองหนึ่งใบบรรจุชุดทดสอบหนึ่งอัน และสารดูดความชื้น ซึ่งมีไว้เพื่อการเก็บอุปกรณ์เท่านั้นและไม่ได้ใช้ในขั้นตอนการทดสอบแต่อย่างใด
2. แผ่นคำแนะนำในการใช้
อุปกรณ์อื่นที่ท่านต้องเตรียม
1. ถ้วยพลาสติกหรือถ้วยแก้วที่สะอาดและแห้งเพื่อเก็บปัสสาวะ2. นาฬิกา
ข้อควรระวัง
1. อุปกรณ์นี้ใช้ภายนอกเท่านั้น ห้ามรับประทาน2. ทิ้งหลังจากใช้เสร็จ ไม่สามารถใช้ซ้าได้
3. ห้ามใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุแล้ว
4. ห้ามใช้อุปกรณ์หากซองมีรอยฉีกขาดหรือปิดไม่สนิท
5. เก็บให้พ้นมือเด็ก
การเก็บและรักษาให้คงสภาพ
1. ซองที่เก็บอุปกรณ์ไม่มีรอยฉีกขาด เก็บในอุณหภูมิ 4-30 องศาเซลเซียสจนถึงวันหมดอายุ2. เก็บให้พ้นจากแสงแดด ความชื้นและความร้อน
3. ห้ามแช่แข็ง
4. เมื่อฉีกซองแล้วให้รีบใช้ทันที
การเริ่มการทดสอบ
เริ่มแรกจะต้องคำนวณความยาวของรอบประจำเดือนปกติก่อน โดยเริ่มนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนจนถึงวันสุดท้ายก่อนวันที่มีประจำเดือนในครั้งถัดไป ตรวจสอบว่าความยาวของรอบประจำเดือนนั้นไม่แตกต่างกันในแต่ละเดือน เมื่อคุณทราบว่าความยาวรอบประจำเดือนของคุณแล้ว สามารถนำมาเปรียบเทียบกับแผนผังด้านล่าง เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นการทดสอบต่อไป
วิธีอ่านผล
การแปลผลการทดสอบว่ามี LH เพิ่มขึ้นระดับสูง (LH surge) หรือไม่ จะต้องพิจารณาเปรียบเทียบความเข้มสีของเส้นทดสอบ (Test line) กับเส้นควบคุม (Control line) นอกจากนี้เส้นควบคุม (Control line) ยังใช้เพื่อยืนยันว่าคุณได้ทำการทดสอบได้อย่างถูกต้องด้วยหรือไม่
ผลเป็นบวก (Positive: LH surge):
หากเห็นแถบสีสองแถบ และแถบทดสอบ (Test line) สีเข้มเท่ากับหรือเข้มกว่าแถบควบคุม (Control Line) แสดงว่ามี LH surge และไข่จะตกภายใน 24-36 ชั่วโมง แนะนำว่าควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าวหลังจากตรวจพบผลทดสอบเป็นบวกในครั้งแรก
ผลเป็นลบ (Negative: No LH surge):
มีแถบควบคุม (Control line) ปรากฏเพียงแถบเดียว หรือแถบทดสอบ (Test Line) มีสีจางกว่าแถบควบคุม (Control line) หมายความว่า LH มีระดับใกล้เคียงหรือเป็นปกติ
ผลทดสอบไม่ถูกต้อง (Invalid result):
ถ้าเส้นควบคุม (Control line) ไม่ปรากฏใน 5 นาที หรือเห็นแถบทดสอบ (Test line)แต่ไม่เห็นแถบควบคุม (Control line) แสดงว่าผลทดสอบไม่ถูกต้อง ให้ทำการทดสอบซ้ำกับชุดทดสอบชุดใหม่
แหล่งข้อมูล
วิธีใช้ชุดทดสอบหาระยะการตกไข่อย่างง่ายด้วยตัวเอง http://www.wecare2009.com/content-วิธีใช้ชุดทดสอบหาระยะการตกไข่อย่างง่ายด้วยตัวเอง-4-2209-34504-1.html
ภาพประกอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น