วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สมุนไพรไทยต้านหวัด รับหน้าฝน


ฝนมาครานี้ ตอนนี้ได้ยินใคร ๆ หลายคนฮึดฮัดฟึดฟัดกันใหญ่ หันไปทางไหนก็เจอแต่คนเป็น "หวัด” กันทั้งนั้น ทั้งนี้ก็เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น สลับไปมาจนร่างกายไม่อาจต้านทานได้ โดยเฉพาะกระแสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลใจว่าจะรับมือกับโรคใหม่นี้ได้อย่างไร เราไปเจอบทความดี้ดีจากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาแนะนำวิธีง่าย ๆ ต้านภัยหวัดจากสมุนไพร หาได้ง่ายจากครัวและในสวนมาแบ่งปันกัน

รู้จักโรคหวัดกันก่อน 

โรคหวัด (Common Cold) นั้น เป็นโรคที่พบได้ง่ายและบ่อยที่สุด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสติดต่อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน โดยเฉลี่ยแล้วทุกคนจะติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของหวัดปีละหนึ่งครั้ง ทำให้ต้องสูญเสียแรงงาน เวลาเรียน และสิ้นเปลืองเงินทองเป็นจำนวนมาก การเอาชนะเชื้อไวรัสได้ต้องอาศัยภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เนื่องจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของหวัดมีอยู่เกือบ 200 ชนิด ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำให้เกิดการอักเสบทางเดินหายใจส่วนบน การเกิดโรคขึ้นในแต่ละครั้งจะเกิดจากเชื้อหวัดเพียงชนิดเดียว เมื่อเป็นแล้วคนเราจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อหวัดชนิดนั้น ในการเจ็บป่วยครั้งใหม่ก็จะเกิดจากเชื้อหวัดชนิดใหม่ หมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 (A-H1N1) มีการแพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน ไม่พบว่ามีการติดต่อมาจากสุกรหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ

หากจะเทียบกับไข้หวัดนกที่เคยระบาดเมื่อปี พ.ศ.2547 ในแง่ของอัตราผู้เสียชีวิตเมื่อได้รับเชื้อ พบว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้ร้ายแรงน้อยกว่า คือ ทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตน้อยกว่า ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้มีอาการคล้ายกันกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ส่วนใหญ่มีอาการน้อยและหายได้โดยไม่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยจำนวนไม่มากในต่างประเทศที่เสียชีวิต มักเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน เป็นต้น ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ โรคอ้วน ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และหญิงมีครรภ์

สมุนไพรไทยต้านหวัด 

สมุนไพรไทยต้านหวัด ได้แก่ พริก ดีปลี พริกไทย ตะไคร้ ข่า ฟ้าทะลายโจร ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และกะเพรา ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณ ดังนี้

รูป พริกแด้, พริกแต้, พริกนก, พริกแจว,พริกน้ำเมี่ยง (เหนือ-พายัพ) จาก
the-than.com
พริก ช่วยบรรเทาอาการหวัด สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือสารคัดหลั่งที่ขัดขวางระบบการหายใจ ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมทั้งยังบรรเทาอาการไอ เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ นอกจากนั้นสารเบต้าแคโรทีนในพริก ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอดอีกด้วย อีกทั้งการรับประทานพริกที่มีรสเผ็ดร้อน ยังทำให้ร่างกายขับเหงื่อและขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้มากขึ้น ช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง พริกจึงถูกนำมาใช้ในการลดไข้ได้
 
ดีปลี รูปประกอบจาก n3k.in.th


ดีปลี มีการใช้มาอย่างยาวนาน ทั้งในทฤษฎีการแพทย์แผนไทยและคัมภีร์อายุรเวทของอินเดีย ในศาสตร์อายุรเวทจัดว่าดีปลีเป็นยาทีมี่รสเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติเบา หมายถึงร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย จึงมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับลม แก้ไข้ การศึกษาในปัจจุบันพบว่าดีปลีออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบหายใจได้ดี ช่วยบรรเทาอาการไอ จึงถูกจัดเป็นตัวยาสำคัญตัวหนึ่ง ในตำรับยาหลายขนานที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องโรคในระบบหายใจ เช่น แก้หวัด หอบหืด หลอดลมอักเสบ 


พริกไทย คนไทยเราใช้พริกไทยในการเป็นยาช่วยย่อยและยาแก้หวัดมาช้านาน ในพริกไทยมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้ไข้หวัด ด้วยกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับพริก คือ ลดน้ำมูก ทำให้ทางเดินหายใจโล่ง และได้ถูกใช้ไปเป็นส่วนผสมของน้ำมันที่ใช้สูดดมเพื่อให้จมูกโล่งด้วย 










ตะไคร้ เป็นสมุนไพรที่คนไทยและคนจีนใช้ในการบรรเทาอาการหวัด และลดไข้หวัดใหญ่ แก้ไข้ แก้ปวดหัว มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ตะไคร้เหมาะสำหรับการบรรเทาอาการหวัด เพราะมีรสเผ็ดร้อน และมีน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากนี้ยีงช่วยผ่อนคลาย อีกทั้งการวิจัยในปัจจุบันยังสนับสนุนว่าน้ำมันหอมระเหยในตะไคร้มีฤทธิ์ในการต้านไวรัสไข้หวัด 


ข่า สมุนไพรรสร้อน ที่ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยลดน้ำมูก ลดการอักเสบ และลดอาการอื่น ๆ เนื่องจากหวัด 






รูปฟ้าทะลายโจร จาก vegetweb.com
ฟ้าทะลายโจร ออกฤทธิ์ในการบรรเทาหวัดด้วย 3 กลไกหลัก กล่าวคือ ทำให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวได้ลดลง และเข้าสู่เซลล์ยากขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู่กับไวรัสทุกสายพันธุ์ และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ 

ขิง มีพฤกษเคมีหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการทดลองพบว่า น้ำขิงแก่ต้มเดือดนาน 30 นาทีทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาสจับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น 

กระเทียม รับประทานกระเทียมสดสามารถป้องกัน และลดระยะเวลาการเป็นหวัด กระเทียมดอง มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีประสิทธิผลในการป้องกันหวัดได้ดีเท่ากับวัคซีน 

หอมใหญ่และหอมเล็ก มีสารเคอร์ซิตินที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านฮิสตามีน ช่วยขยายหลอดลม 

กะเพรา สมุนไพรที่คนไทยและคนอินเดียนิยมใช้แก้ไอ แก้หวัด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงมีประโยชน์ในคราที่เราต้องเผชิญกับไข้หวัด 

อาหารต้านหวัด 

ซุปไก่ตุ๋น หลายประเทศทั่วโลกมีประสบการณ์ร่วมกันในการใช้ซุปไก่ตุ๋นบรรเทาอาการหวัด คนไทยนิยมรับประทานแกงไก่บ้านแก้หวัด ในไก่มีกรดอะมิโนตามธรรมชาติชื่อ ซีสเทอีน ซึ่งจะละลายในน้ำเมื่อต้มน้ำซุป สารตัวนี้มีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับ อะเซทีลซีสเทอีน ซึ่งใช้เป็นยาละลายเสมหะ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่า นิวโทรฟิลด์ ไปยังเนื้อเยื่อปอด ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบในปอด และลดอาการไอได้

นมเปรี้ยว มีเชื้อแลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งการรับประทานนมเปรี้ยวชนิดนี้ จะช่วยกระตุ้นสารแกมมาอินเตอร์ฟีรอน หรือภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้นได้ และยังมีงานวิจัยพบอีกว่าการดื่มนมเปรี้ยวทุกวันจะช่วยลดอาการทุกข์ทรมานจากหวัดละอองฟาง ภูมิแพ้และหวัด 

ข้าวหมาก สามารถกระตุ้นให้แบคทีเรียประจำถิ่นในทางเดินอาหารให้ทำงานดีขึ้นเช่นเดียวกับนมเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีสังกะสีในปริมาณสูง ซึ่งมีการวิจัยพบว่า เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดสังกะสี ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังพบว่าระบบภูมิคุ้มกันซึ่งจะเฉื่อยชาลงเมื่อถึงวัยชรา สามารถกระตุ้นให้เข้มแข็งได้ดีพอ เมื่อได้รับสังกะสี 

ต้มโคล้ง มีสมุนไพรที่หลากหลาย ทั้งตะไคร้ที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน แก้อักเสบได้ดีเยี่ยม ทั้งยังมีสมุนไพรที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ช่วยขยายหลอดลม ต้านอาการไอ ข่าช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยลดน้ำมูก ขับเสมหะ และลดอาการอักเสบหรืออาการอื่น ๆ อันเนื่องจากหวัด 

ไก่บ้านต้มขมิ้น เป็นอาหารแก้หวัดที่ดี ประกอบด้วยน้ำซุปไก่ที่มีกรดอะมิโนต้านหวัดและสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ ช่วยย่อย ต้านหวัด แก้ไอ ขับเสมหะ เพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบ รสเปรี้ยวนำมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ ลดความร้อน เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย 

แกงเห็ด เห็ดมีสรรพคุณในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ เมื่อนำแกงรวมกับสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการต้านหวัด ต้านการอักเสบและมีรสเปรี้ยว อย่างยอดมะขามจะช่วยในการแก้ไอ ขับเสมหะ 

แกงอ่อมหมูใส่ฟักทอง ช่วยขับเสมหะจากรสเค็มและเผ็ดร้อน รวมทั้งยังมีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านหวัด 

รับประทานผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซี และวิตามินอีสูง 

ผักที่มีวิตามินซีสูง อาทิ ฝักเพกา (484) ดอกขี้เหล็ก (398) ยอดมะยม (302) พริกกะเหรี่ยง (233) ผลยอ (208) มะระขี้นก (190) ฝักมะรุม (159) ผักเชียงดา (153) ยอดฟักข้าว (147) ผักโขม (120) ทองหลาง (100) ยอดน้ำเต้า (95) คะน้า (93) ยอดมะม่วงหิมพานต์ (89) ผักชี (78) ใบยอ (76) ดอกบร็อกโคลี (75) ดอกกะหล่ำ (72) ดอกสะเดา (73) ผักปลัง (73) กวางตุ้ง (53) ใบมะรุม (53) ดอกแค (52) ตอกขจร (45) แครอท (41) 

ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาทิ มะขามป้อม (600) ฝรั่ง (187) สตรอเบอรี่ (77) มะละกอ (60) ส้มเขียวหวาน (42) มะม่วง (36) น้ำมะนาว (34) สับปะรด (22) มะเขือเทศ (21.3) 

**ตัวเลขในวงเล็บ คือ ปริมาณมิลลิกรัมของวิตามินซีต่อ 100 กรัมของผักหรือผลไม้** 

อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น น้ำมันดอกคำฝอย เมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็งประเภทอัลมอนด์ จมูกข้าวสาลี กะหล่ำปลี มันเทศ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อะโวคาโด (เฉพาะเนื้อ) มะพร้าว ปวยเล้ง 

เพิ่มวิตามินดี 3 
การเดินรับแสงแดดช่วงก่อน 10 โมงเช้า นักระบาดวิทยาชาวอังกฤษ คือ ดร.เอ็ดกา ซิมสัน ซึ่งค้นพบว่าคนทั่วโลกจะเป็นหวัดมากในช่วงที่แสงแดดน้อย แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างวิตามินดี วิตามินดี 3 จะกระตุ้นการสร้างกรดอะมิโนที่ต่อสู้กับสารซัยโคตายน์ ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ร่างกายเราควรจะหาเวลารับแสงแดด โดยเฉพาะในช่วงก่อน 10 โมงเช้า เพราะเป็นเวลาที่แสงแดดไม่แรงมาก รังสียูวีมี 2 ชนิด คือ ยูวีเอ และยูวีบี ในแสงแดดยามเช้า จะมียูวีบีที่กระตุ้นการสร้างวิตามินดี แต่หากเลยสิบโมงไปแล้วแดดจะแรงมาก และมียูวีเอมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง 

ทั้งนี้ หากใครที่รู้สึกคัดจมูกทุกเช้า มีน้ำมูก หรือเป็นหวัด อยากรับประทานสมุนไพรสูตรเข้มข้นเพื่อยับยั้ง หรือบรรเทาอาการหวัด ทางมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังได้ผลิตแคปซูลพริก ซึ่งผสมสมุนไพร 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ผลพริก ผลดีปลี ผลพริกไทย ใบตะไคร้ และเหง้าข่า ก็ได้เหมือนกัน 

แหล่งข้อมูล
Public Relations Office Region 4 Phitsanulok 
The Public Relations Department 
Office Of The Prime Minister
http://region4.prd.go.th/ewt_news.php?nid=247&filename=index

ภาพประกอบ
รูปประกอบจาก fifediet.co.uk

รูปตะไคร้ จาก healthyenrich.com

รูปข่าจาก thaihealth.in.th


    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น