วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) คำตอบซื่อสัตย์ ที่จะตอบว่าเราอ้วนหรือน้ำหนักเกินหรือไม่? โดยเภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล


ไม่มีใครยอมรับว่าเราอ้วนหรือน้ำหนักเกิน จะถามใครหรือก้ออาย ไป search ในเนทก้อมีแต่หลอกขายของ อาหารเสริมราคาแพงซื้อไปก้อผอมแน่ๆ เพราะไม่มีจะกิน เพราะหมดตัวไปกับของปลอมที่จงใจมาหลอกให้เราไปเสียเงิน มากกว่าจะมาดูแลสุขภาพเราอย่างแท้จริง

เลยมีคำถามว่า "อยากวัดแบบชี้ชัดๆว่าเราอ้วนไหม คุณเภสัชกร?" 

มีซิ เรามี ดัชนีมวลกาย หรือที่รู้จักกันว่า Body Mass Index คำตอบซื่อสัตย์ที่จะตอบว่าเราอ้วนหรือน้ำหนักเกินหรือไม่? มาเฉลยให้คุณได้รู้อย่างชัดเจน

BMI คืออะไร?
BMI หรือ ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)  เป็นวิธีหนึ่งของการประเมินปริมาณไขมันในร่างกายที่นิยมใช้กันทั่วไป เพื่อประเมินภาวะอ้วนผอมในบุคคลอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยใช้สมการ 

        น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)
           ส่วนสูง (เมตร) 2


แล้วเปรียบเทียบกับค่าที่กำหนดไว้ อยากรู้มั้ยว่า จะได้ค่านี้อย่างไร ง่ายมาก click ไปที่นี่
http://www.musashi.com.au/Training-HQ/BMI-calculator 
ใส่ตัวเลขส่วนสูงและน้ำหนักตัวลงไปก้อจะได้ค่า ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)  ของเราออกมา ง่ายมั้ย?


BMI เชื่อได้แค่ไหน?
เนื่องจาก BMI เป็นดัชนีที่มีความสัมพันธ์กับระดับไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ในร่างกายของคนเราได้ค่อนข้างดี และสามารถคำนวณได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ถึงแม้นว่าจะเริ่มต้นจะเป็นครื่องมือชี้วัดปริมาณไขมันในร่างกาย ที่มีการการพัฒนาโดยนักวิจัยชาวตะวันตก แต่ปัจจุบันก้อได้นำมาวิจัยและดัดแปลงมาใช้กับคนไทยได้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงได้มากที่สุดระดับหนึ่ง

BMI บอกได้ถึงภาวะโรคอ้วน
ปัญหาโรคอ้วนในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งสาเหตุของโรคอ้วนมีหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต การเลี้ยงดู และพฤติกรรมสุขภาพ จากรายงานทางการแพทย์ อาทิ รายงานของ Berenson และคณะ ในการศึกษา Bogalusa Heart Study และรายงานอื่นๆ สรุปได้ว่า เด็กที่อ้วนมีแนวโน้มจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วน และคนอ้วนมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคความดันเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

ตามไปดูทุกคำตอบวิธีลดความอ้วนที่ได้ผลและปลอดภัย
โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล ได้ที่นี่
http://www.oknation.net/blog/DIVING/2010/06/12/entry-2

แหล่งข้อมูลและรูปประกอบ
ผศ.ดร.วงสวาท โกศัลวัฒน์,
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 293
เดือน/ปี: กันยายน 2004

ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index),
http://konthairaipung.anamai.moph.go.th/bmi.html

Calculate Your Body Mass Index,
NHLBI Health Information Center,
http://nhlbisupport.com/bmi/

รูปประกอบ


วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Marketing Checklist for Small Retailers


This is a checklist for the owner-manager of a small retail business. The questions cover areas of retail marketing, including aspects like customer analysis, buying, pricing, and promotion. You can use it to evaluate your current status and, perhaps, to rethink certain decisions.
If your retail firm is to be successful over the long run, it must satisfy the needs and desires of its present and potential customers. Sound buying means knowing where to buy, what to buy, how much to buy, and how to place an order. This requires familiarity with old and new products, adequate amounts of the right stock on hand, and selecting and working with suppliers in ways that benefit the store. In pricing, you need to understand the market forces affecting your business, plan the price policies that you will follow, and know whether or not your pricing policies meet customer willing to pay and ITD regulations.
Also, you need to be familiar with various types of promotion and when, where, and how to use them. 
Under the heading of management goes the establishment both of long and short-range goals. How you set up your organization and how you communicate with your employees are crucial factors in meeting your goals. Of equal importance to good management is the ability to keep and make use of accurate financial records. It also pays to examine your insurance coverage in various areas.
In answering the following questions, you will be reminded of what you may still need to do to round out all marketing aspects of your business.

Download the Checklist, for Free,

http://www.scribd.com/doc/111338212/Marketing-Checklist-for-Small-Retailers

These questions are meant to help you analyze your retail operation from the marketing viewpoint. You should know the strengths of your business and products. You must also know the real problems you are up against. Your business depends on your good sense and management foresight. You must adapt to new markets, product changes, and be innovative to keep your business growing.

Source of info:
The Retail Concepts, What is Marketing?, http://www.retailconcepts.com/retail-resources/planning-checklists/marketing

The Small Business Treasure Inc. , Marketing Checklist for Retailer, http://www.belgotec.com/small-business-marketing/marketing-m2c.htm

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลงทุนเปิดร้านยา ดีมั้ย? โดยเภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล


“ลงทุนเปิดร้านยา ดีมั้ย? พี่หมอ” ซองคำถามประจำวันจากน้องออย เจ้าตัวไปอ่านพบ websites ว่าลงทุนร้านยาง่าย กำไรดี ไม่ต้องมีเภสัชก้อได้

ขอตอบแบบเภสัชกรมือใหม่ อิงกะวิชา invesment ที่เรียนมา


1. ลงทุนเปิดร้านยา”ดี” มั้ย? => ความคุ้มค่าหรือการงอกเงยของเงินลงทุน (capital growth) แต่ละคนไม่เท่ากัน 2% ของคนเกษียณแล้ว จะไปเทียบกับ 7-15% ของหุ้นที่วิ่งไวๆไม่ได้  ถามตัวเองว่า ดีของตัวเองคือแค่ไหน?

2. ลงทุนเปิดร้านยากำไรเย้อะ => เสถียรภาพของรายได้ (stability of income) จากการเปิดร้านยา ยาว เย้อะและยุ่งมว๊ากกกกกก คลิ้กไปตามอ่านจากบทความเดิมที่เขียนไว้ http://www.oknation.net/blog/DIVING/2008/10/16/entry-1
ถ้าขี้เกียจอ่าน เชื่อว่า websites ลงทุนร้านยาง่าย กำไรดี แล้วให้อ่านข้อ 3.
3.1 ความปลอดภัยของเงินลงทุนร้านยา (security of principal) อะไรที่กำไรดี เราจะต้องกินรวบลงทุนเอง รวยเอง จะไปแบ่งให้คนอื่นให้โง่เหรอ?

แต่…


3.2 ถ้าเราลงทุนไปแล้วไม่แน่ใจ ไม่กุมปัจจัยแห่งความสำเร็จไว้ในมือ เราต้องกระจายเงินลงทุน (diversification) เพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด


3.3 ถ้าน้องออย ไปเชื่อ
websites ดังกล่าวว่าลงทุนร้านยาง้ายง่าย กำไรดี้ดี ถ้าดีจริง มันจะมาชวนเชิญคนฉลาดน้อยๆไปลงทุนกับมันทำไม เปิดเองไม่รวยกว่าเหรอ
หวังว่าคงได้คำตอบดังใจน้องออยนะ 

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Project A ร้านยาเล็กร่วมมือกัน เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจได้อย่างไร? โดยเภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล


ทุกวันนี้...ก่อน AEC จะเข้ามาเยือนบ้านเรา ร้านยาเล็กๆแบบไร้สายป่านยาวๆ ไม่มีเครือข่ายในการเสริมเพิ่มเติมศักยภาพกำลังเผชิญกับสิ่งคุกคามมากมายทำให้ยอดขายตกต่ำลง ในขณะที่กฎหมายมีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งหมายถึงต้นทุนการประกอบกิจการที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งคุ่แข่งขันยักษ์ใหญ่ทั้งภายในประเทศและบรรษัทข้ามชาติ แล้วเราจะทำอย่างไรดี เรามีกรณีศึกษาตัวอย่างที่ทางสมาคมร้านขายยา ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกและทางรอดอันหนึ่งให้ร้านยาเล็กๆได้มีแต้มต่อที่ดีขึ้นในการพัฒนวิชาชีพเพื่อรับการต่อกรต่อโลกที่เปลี่ยนไป

 
ชื่อโครงการ: Project A คำตอบที่มดเล็กๆจะรวมตัวกัน
 1. หลักการและเหตุผล:  
ร้านยากำลังเผชิญกับสิ่งคุกคาม
•ยอดขายตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ขนาดตลาดของธุรกิจยาเติบโตขึ้นทุกปี
•กฎหมายมีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งหมายถึงต้นทุนการประกอบกิจการที่สูงขึ้น
•การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งคุ่แข่งขันภายในประเทศและบรรษัทข้ามชาติ

2. วัตถุประสงค์: นอกเหนือไปจากการที่พวกเราร่วมกันเรียนรุ้ผ่านหลักสูตรการอบรมเชิงปฏิบัติการ  “การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านยา” => NANO MBA 1&2
นอกเหนือจากให้เราทุกคนได้นำความรู้ที่ได้ ไปเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อที่จะ
•เพิ่มรายได้มากขึ้น
•ลดค่าใช้จ่าย
•มีเครื่องมือการทำงานใหม่ๆและร้านยา


 Project A รวมตัวกันเพื่อรวมพลัง
3. เราจึงเริ่มจัดโครงการที่ชื่อว่า  Affiliate Project (Project A) 
โดยการสรรหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะมานำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ที่จะช่วยให้ร้านยาของท่าน
•เข้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สินค้า Exclusive
สำหรับสมาชิกเครือข่ายเท่านั้น
•ได้องค์ความรู้ใหม่ๆไปพัฒนาร้าน

4. Project A  หมายถึงวิธีการร่วมมือกันภายในร้านยาเครือข่าย ไปจับมือกับธุรกิจหลาย ๆ แห่ง ในรูปแบบต่างๆ
การทำธุรกิจร่วมกัน ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจในเครือข่ายนั้น สามารถทำงานที่แต่ละคนทำตามลำพังไม่ได้ โดยที่ธุรกิจเครือข่ายทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เสมือนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะดำเนินการร่วมกัน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน จึงมีความสามารถสูงกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า ความคล่องตัวสูงกว่า และความคิดริเริ่มดีกว่าที่ร้านยาแต่ละแห่งจะทำตามลำพัง

 Project A: รวมพลัง Values ได้อย่างไรบ้าง?
5. Value chain possibilities for networking 
ขั้นตอนและกระบวนการสร้างเครือข่าย มีทางเลือกดังนี้การสร้างเครือข่าย
•สร้างเครือข่ายการใช้เทคโนโลยีข่าวสารที่ทันสมัย (InFormation Technology)
•สร้างเครือข่ายการเตรียมบุคลากร และการฝึกอบรม ให้มีทักษะทางการบริหาร และมีเทคโนโลยี ที่เหมาะสม (Training
•สร้างเครือข่ายข้อมูลการตลาด (Logistics) การคลังสินค้า (Warehousing) และการจำแนก แจกจ่าย (Distributio
•สร้างเครือข่ายข้อมูลการตลาด (Marketing Intelligence)

ตอนต่อไป แผนการทำงาน เราจะเริ่มสร้างเครือข่ายร้านยาที่เข้มแข็งได้อย่างไร?