วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก ตาแดงก่ำ หายได้เอง


ไปดำน้ำครั้งนี้ ได้พบเพื่อนๆมีอาการตาแดงก่ำผิดปกติ สาเหตุเกิดจากอะไร และจะเป็นอันตรายหรือไม่  

เรามีคำตอบจาก ผศ.พญ.สุชาดา กัมปนาทแสนยากร หัวหน้าสาขาวิชาจักษุวิทยาเด็กและกล้ามเนื้อ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลมาเล่าให้ฟังครับ

ตาแดงอาจมีสาเหตุมาจากเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตกเหมือนกับการฟกช้ำดำเขียวตามผิวหนัง
ปกติบริเวณที่เราเห็นเป็นตาขาว จะมีเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ อยู่ อาจจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะเห็นเส้นเลือดชัดต่อเมื่อมีการอักเสบ เช่น ตาแดง ติดเชื้อ ก็จะเห็นเป็นตาแดง ถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่ได้มีตาแดง ไม่มีการติดเชื้อ ไม่มีการอักเสบ แต่จู่ ๆ ตาแดงขึ้นมาบริเวณตาขาวข้างเดียว หรือ 2 ข้าง เป็นเพียงครึ่งเดียว หรือทั่วบริเวณ อาจมีสาเหตุมาจากเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก ลักษณะนี้เปรียบเหมือนกับการฟกช้ำดำเขียวตามผิวหนัง ที่พอโดนอะไรกระแทกที่ผิวจะเห็นเป็นสีเขียว สีม่วง ในที่สุดจะค่อย ๆ จางหายไป แต่บังเอิญพอไปเกิดที่ตาเลยทำให้ตาแดงก่ำบริเวณตาขาวเหมือนกับมีเลือดออกอยู่ในตาทำให้ดูน่ากลัว

ปกติถ้าเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตกจะไม่รบกวนการมองเห็น และไม่เป็นอันตราย เพราะสามารถมองเห็นได้ชัดเหมือนปกติ ตาที่แดงจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 10-14 วัน เว้นแต่ว่าเมื่อตาแดงแล้ว คนไข้มีอาการตามัว ปวดตา ร่วมด้วย ลักษณะนี้ต้องมาพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจมีเลือดออกข้างในด้วย แต่ถ้าตาไม่มัว ไม่ปวดตา และไม่มีเลือดออกข้างในก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ต้องตกใจ สบายใจได้ คนที่คิดว่าน่ากลัวก็หาแว่นดำมาใส่เพื่อปกปิดไว้

สาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก 
ส่วนใหญ่เกิดจากการขยี้ตา บางคนขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว เช่น ขณะนอนหลับ อาจมี อาการคันตาแล้วเผลอไปขยี้ตาตัวเอง พอขยี้แรงเส้นเลือดฝอยก็แตก หรือบางคนเช็ดหน้าแล้วเล็บไปโดน ผ้าเช็ดหน้าไปโดน หรือบางคนได้รับอุบัติเหตุรุนแรง โดนชกต่อย โดน กระแทกบริเวณตาก็พบบ่อยเช่นกัน ซึ่งกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุรุนแรงอาจมีเลือดออกภายในตาร่วมด้วย

ถ้าเป็นบ่อย ๆ ควรหมั่นสังเกตว่า มีอาการไอร่วมด้วยหรือไม่ การไอแรง ๆ ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกได้ เหมือนกับผู้ป่วยโรคไอกรนในอดีต นอกจากนี้ยังพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเลือด เลือดออกง่ายก็พบได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าคนไข้เป็นโรคความดันโลหิตสูง มีอาการไอแรง ๆ จนทำให้เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก ก็ต้องไปรักษาที่ต้นเหตุ

ในกรณีที่มีเลือดออกข้างในตาด้วย จะเห็นเหมือน มีเลือดอยู่ที่ตาดำ ลักษณะนี้คนไข้น่าจะมีอาการตามัวร่วมด้วย ถ้าใช้ไฟ ฉายส่องดูจะเห็นเลือดเป็นระดับ กรณีนี้ต้องรักษาโดยให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล

ไปหาหมอตา จะตรวจอะไร? 
ดังนั้นถ้ามีคนไข้คนหนึ่งตาแดงแล้วมาพบจักษุแพทย์ ทางจักษุแพทย์จะซักประวัติคนไข้ว่ามีอาการปวดตา ตามัว ร่วมด้วยหรือเปล่า ได้รับอุบัติเหตุอะไรมาหรือเปล่า มีอาการไอมากหรือไม่ หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงหรือไม่ ในกรณีที่ตาแดงแล้วมีขี้ตาด้วยต้องดูว่าตาติดเชื้อหรือไม่ หรือคนไข้บางคนเป็นโรคคันตา ขยี้ตาบ่อย กรณีนี้ก็ต้องไปรักษาอาการคันตาให้หาย

จากประ สบการณ์ที่ผ่านมา พบว่า คนไข้หลาย รายที่ตาแดงเพราะเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก พอส่อง กระจกก็ตกใจ รีบมาพบแพทย์ ดังนั้นต้องขอย้ำว่าไม่ต้องเป็นกังวล ถ้าตาแดง เฉย ๆ ไม่มีอาการ อย่างอื่นร่วมด้วยก็ไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์ เพราะไม่มีอะไรรุนแรง สามารถหายไปได้เอง ใน 10-14 วัน

นอกจากเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตา แตกแล้ว ตาแดงเกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? ผศ.พญ.สุชาดา บอกว่า ก็อย่างที่บอกไว้ ถ้าตาแดงและมีขี้ตาด้วยแสดงว่า เยื่อบุตาอักเสบติดเชื้อ ถ้าตาแดง แล้วมีอาการปวดตา ตามัว น้ำตาไหล ไม่มีขี้ตา ปวดร้าวไปที่ศีรษะ อาเจียนด้วย ให้นึกถึงโรคต้อหิน หรือกรณีที่ม่านตาอักเสบ คนไข้จะตาแดง ปวดตา มีน้ำตาไหล แต่จะไม่มีขี้ตา พบบ่อยในผู้ป่วยวัณโรค ฟันผุ หรือไซนัสอักเสบ นอกจากนี้อาจเกิดจากอุบัติเหตุ มีอะไรไปบาด หรือ มีโลหะ หรือขี้ผงเข้าไปก็ทำให้ตาแดง ที่เจอบ่อย คือ คอนแทคเลนส์ คนไข้ใส่แล้วทำให้มีการติดเชื้อ ตาคนไข้จะแดงก่ำ มัว ตาดำจะขุ่น ดังนั้นคนใส่คอนแทคเลนส์ต้องระวังการติดเชื้อ หรือเกษตรกร ที่ตากแดดไม่ได้ใส่แว่นกันแดดก็อาจทำให้เกิดต้อเนื้อ โดยจะมองเห็นเป็นแผ่นแดง ๆ บริเวณหัวตาหรือหางตา

มีวิธีการดูแลถนอมดวงตาอย่างไร ? 
ในชีวิตประจำวันต้องดูว่าการมองเห็นชัดหรือไม่ มีการระคายเคืองที่ตาหรือไม่ บางคนไม่เคยสังเกต เพราะไม่เคยปิดตาทีละข้างดู ดังนั้นถ้าจะดูว่าการมองเห็นชัดหรือไม่ ต้องปิดตาทีละข้างแล้วดูว่ามองเห็นชัดหรือไม่ มีบางคนตาบอดไปข้างหนึ่งยังไม่ทราบก็มี เพราะว่าใช้ตา 2 ข้างจะไม่รู้สึกอะไร บางคนเป็นต้อหินชนิดไม่ปวด ตาก็ไม่แดง แต่การมองเห็นจะแคบ ข้าง ๆ จะมองไม่เห็น ก็จะเดินชนโน่นชนนี่ ถ้ามีประวัติแบบนี้ ให้รีบมาพบจักษุแพทย์

นอกจากนี้ในการดำรงชีวิตประจำวันของคนเราต้องเจอกับสารเคมีล้างห้องน้ำ บางทีกำลังใช้แปรงขัดทำความสะอาดสารเคมีกระเด็นเข้าตา ลักษณะนี้ก็ต้องรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดและรีบไปพบแพทย์ บางคนต้มน้ำ น้ำเดือดด้วยไมโครเวฟ รีบเปิดทันทีน้ำร้อนกระเด็นเข้าตา ก็ต้องระวัง หรือเด็กบางคนเล่นของเล่น หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นของแหลมไปทิ่มตา ผู้ปกครองและคนรอบข้างก็ต้องคอยระวังและหมั่นสังเกตกรณีที่มีความผิดปกติเกิดขึ้น การเล่นกีฬาก็อาจทำให้ได้รับอุบัติเหตุที่ตาได้เช่นกันก็ต้องระวัง อาชีพที่เสี่ยง เช่น ช่างเชื่อมเหล็กก็ต้องระวังหาสิ่งป้อง.

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
รูปประกอบ: http://wccoba.org/โรคเกี่ยวกับตา/เลือดออกวุ้นตา/เลือดออกในตา-เลือดออกใต.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น