เราเดินทางมาถึงตอนใกล้จะสุดท้ายของความรู้เรื่องการดูแลแผลอย่างไรให้มีแผลเป็นได้น้อยที่สุด เรามาตามติดดูว่าวิทยาการเทคโนโลยี่ใหม่ๆ อะไรบ้างที่ปัจจุบันนำมารักษารอยแผลเป็นกันบ้างอย่างได้ผลและปลอดภัย แล้วิธีไหนนะ? ที่เจ๋งเป้งทำให้ผิวปูดโปนปุ่มปมน่ากังวล กลับไปเนียนเรียบสวยงามดั่งวันวารได้อีก
ทำไมยังเกิดแผลเป็นได้หล่ะ
คุณๆที่ติดตามบทความนี้มาแต่เริ่มต้น
คงทราบดีแล้วว่าแผลเป็นต่างๆ อาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็กๆ เช่นมีดบาด หกล้ม รวมไปทั้งแผลที่เกิดจากโรคบางชนิดเช่นสิว
แผลจากอาการแพ้ผื่นคัน แผลติดเชื้อ แผลเป็นเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ จะเกิดมาภายหลังมาจากการหายของแผล
เนื่องจากร่างกายคุณเองนั่นแหละ มีขบวนการซ่อมแซมตัวเองให้มีแผลเป็นน้อยที่สุดอยุ่แล้ว
แต่เราไม่ได้โชคดีที่เกิดแต่แผลเล็กๆ บางครั้งถ้าเราโชคร้ายไปมีแผลที่มีขนาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เช่นแผลจากอุบัติเหตุรุนแรง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกเป็นพื้นที่กว้างๆ แผลจากการผ่าตัด
ร่างกายเราจะมีความสามารถน้อยลงในการสมานแผลให้เป็นปกติดั้งเดิม และใช้เวลานานอย่างมากกว่าเดิม
ทำให้ในแผลหายช้าลง จนเกิดโอกาสที่จะเป็นแผลเป็นมากขึ้น แผลเป็นที่เกิดขึ้นมักจะเห็นชัดในระยะแรกและค่อยๆ
จางลง โดยใช้ระยะเวลาเป็นเดือนหรือปี การที่แผลเป็นจะเห็นได้ชัดหรือไม่ขึ้นกับสี ความเรียบ
ความลึก ความยาวและความกว้างของแผลเป็นนั้นๆ ยิ่งเรามีอายุน้อยการซ่อมแซมแผลมักจะดี
ทำให้แผลเป็นเกิดได้น้อยกว่าเมื่อคุณอายุมากขึ้น
ภาพประกอบ: ขบวนการรักษาแผลเป็นให้หาย The Wound Healing Process จาก
woundcaresolutions-telemedicine.co.uk
การรักษาแผลเป็นที่โฆษณากันตูมตาม ทำอย่างไร? จะหายจริงหรือ? จะเชื่อได้แค่ไหน?
คุณคงผ่านหูผ่านตาของการโฆษณามากมายถึงวิธีการและผลิตภัณท์
ยาและอาหารเสริมต่างๆมากมาย มาแล้วว่าช่วยให้เแผลเป็นเลือนหายในภาพคอมพิวเตอร์กราฟิคต่างๆ
จะเชื่อถือได้หรือไม่ แล้วแต่ประสบการ์ณของแต่ละท่านนะครับ แต่ในที่นี้ผมขออนุญาตใช้องค์ความรุ้
ของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าได้ผลและปลอดภัยที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว
ภาพประกอบ: ขบวนการรักษาแผลเป็นทีละขั้นตอน จาก Schematic representation of processesinvolved in wound healing copewithcytokines.de
วิธีการรักษาแผลเป็นที่ได้ผลและปลอดภัย
เทคนิควิทยาการทางการแพทย์ในด้านความงามนี่ไปเร็วจริงๆครับ
ปัจจุบันเรามีความสามารถในการเจริญในการทำแผลเป็นให้ดีขึ้น แต่ต้องบอกันตรงๆว่า “ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ไม่มีทางที่จะทำแผลเป็นให้กลับมาเป็นผิวหนังปกติได้เลย”ความจริงมีอยุ่ว่า เราเพียงแต่ช่วยทำให้แผลเดิมดูดีขึ้นและสังเกตเห็นได้น้อยลง
สิ่งสำคัญคือ อย่าเชื่อจนกว่าจะได้พบผุ้ให้การรักษา ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการเรียนรุ้
ฝึกอบรมและให้การรักษาเท่านั้น ที่จะอำนวยการให้คุณเชื่อมั่นได้ว่าจะมีวิธีการรักษาไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแผลเป็นนั้นของคุณเอง
ลองมาดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่อาจจะเหมาะกับเรา
การเปลี่ยนลักษณะแผลเป็นโดยการผ่าตัด
ย้ำไม่ใช่ลบรอยแผลเป็น
แต่วิธีนี้เหมาะสำหรับแผลเป็น มาก่อนแล้ว
ที่กว้างอย่างมากหรือยาวมากในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ชัด
โดยแผลเป็นที่กว้างและยาวดูน่าเกลียด สามารถถูกทำให้แคบขึ้นและสั้นลงได้โดยเทคนิคทางการผ่าตัดต่างๆ ซึ่งแพทย์ต้องดูทิศทางของแผลเป็นและทิศทางของกล้ามเนื้อภายใต้แผลเป็นนั้นๆ เป็นศาสตร์และศิลป์ที่เราต้องการผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
การขัดหน้า
กำลังโด่งดังในขณะนี้ เป็นเทคนิคที่ค่อนข้างจะปลอดภัยและสามารถทำได้ด้วยเครื่องมือหลาย
ชนิดตั้งแต่เครื่องที่หัวทำด้วยกากเพชร ทรายบางชนิด ไปจนถึงการใช้แสงต่างๆ เช่นเลเซอร์ขัดหน้า
แต่การจะเลือกใช้เครื่องมือชนิดใดขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ ชนิดของผิว และลักษณะของแผลเป็น
เทคนิคนี้ใข้ได้ผลดีกับแผลเป็นจากสิว แผลเป็นจากอีสุกอีใส แผลเป็นจากรอยผ่าตัด กระชนิดลึกและรอยเหี่ยวย่น
ขบวนการรักษาโดยวิธีนี้ จะฉีดยาชาเฉพาะที่และยาช่วยผ่อนคลายระหว่างให้การรักษา หลังทำเสร็จแล้ว คุณสามารถกลับบ้านได้แต่ต้องพักอยู่บ้านประมาณ
1 สัปดาห์ แผลส่วนใหญ่จะแห้งภายใน 1-2 สัปดาห์ ต่อมาบริเวณที่ทำอาจมีสีผิวดำและแดงได้เล็กน้อย
ส่วนใหญ่จะหายไปภายใน 3 เดือน ขึ้นอยุ่กับการดูแลผิวต่อไปภายหลังของคุณนั่นเอง แต่ต้องพยายามเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลา
3-6 เดือน
การฉีดคอลลาเจน
โด่งดังจนต้องไปหาซื้อมากิน
ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ในการลดรอยแผลเป็น แต่ความจริงนั้น คอลลาเจนคือสารที่ผลิตจากโปรตีนของสัตว์ที่ผ่านขบวนการสังเคราะห์และควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด
ว่าได้ผลในการฉีดเข้าไปในแผลเป็นเพื่อให้แผลเป็นเรียบขึ้นกว่าเดิม และไม่มีผลอันตรายเป็นสิ่งแปลกปลอมต่อร่างกายเรา
วิธีนี้เหมาะสำหรับแผลเป็นที่เป็นมานานและ รักษาโดยวิธีอื่นแล้วไม่ค่อยได้ผล แต่ที่ต้องระวังคือ
ผลข้างเคียงของสารโปรตีนนี้อาจทำให้คุณเกิดอาการต่อต้าน แพ้ได้และต้องมาฉีดสม่ำเสมอทุก
6-12 เดือน เนื่องจากคอลลาเจนที่ฉีดเข้าไปจะสลายได้
การรักษาโดยการปลูกหนังใหม่
ทำได้โดยการผ่าตัดแผลเป็นดั้งเดิมออกไป
และนำผิวหนังจากบริเวณอื่นในร่างกายเรา น่านแหละที่ปกติดีอยุ่มาใส่ลงไปแทนที่ลงไป ผลที่ได้จะทำให้แผลเป็นเรียบขึ้น
เหมาะสำหรับแผลเป็นที่เป็นหลุมลึกมาก และช่วยให้เกิดอาการต่อต้านผิวใหม่น้อยมากเพราะผิวที่บ่มแปะแทนก้อเป็นผิวเดิมๆจากร่างกายเราเอง
รักษาโดยใช้สารเคมี
เหมาะสำหรับแผลเป็นชนิดตื้นๆ
เช่นแผลเป็นจากรอยคุ้ย แคะ แกะ เกาของ สิว ด้วยมือของเราเองนี่แหละ ในทางการแพทย์นั้น เราจะเลือกใช้สารเคมีที่ต้องควบคุมพิเศษ มาใช้มีหลายชนิดคือกรดไทรคลออาซิติก
กรดอัลฟาไฮดรอกซี่และอื่นๆ การเลือกใช้สารชนิดใดขึ้นอยู่กับระดับความลึกของแผลเป็น
หลังทำไปแล้วคุณผู้จะรู้สึกแสบๆ เล็กน้อยในพื้นที่ผิวเดิม หลังจากนั้นบริเวณที่ทำจะดำและหลุดลอกออกภายใน
4-5 วัน หลังแผ่นดำหลุดออกบริเวณที่ถูกทำอาจดำหรือแดงเล็กน้อยและค่อยๆ จางหายไปในที่สุด
ผู้ที่ได้รับการรักษาต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย2-3 สัปดาห์ คุณๆสามรถตามอ่านรายละเอียดได้ในตอนการรักษาแผลเป็นจากสิว
ที่ผมเขียนไว้แล้ว ในคุ่มือรักษาสิวที่ผ่านมาครับ
แล้ววิธีไหนดีที่สุดหล่ะ
เชื่อว่าเสียเงินเท่าไหร คุณสาวๆที่มีแผลเป็นให้กังวลใจ
ก้ออยากให้หายไปเหมือนผิวยามวัยเยาว์แรกเกิดของคุณๆ ของเราใช่ไหมครับ ในฐานะเภสัชกรอยากจะยืนยันว่าเทคโนโลยี่ใหม่ทำให้การรักษาแผลเป็นก้าวหน้าขึ้น
มีผลิตภัณท์ยา อาหารเสริม เวชสำอางเครื่องประทินผิวบางตำหรับที่ช่วยให้แผลเป็นต่างๆ
“ดูดีขึ้น” ได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น
แต่ก้อมีลักษณะแผลหลายอย่างตามที่ได้กล่าวมาแล้ว อยากจะแนะนำให้ไปปรึกษาผู้ชำนาญแทนครับ
เพราะว่าจะช่วยเหลือคุณ ตรวจวิเคราะห์สภาพผิว ดูรอยโรคของแผลเป็น และประเมินพร้อมกับให้การรักษาที่ดีที่สุด
หากคุณให้ความร่วมมือในการดูแลผิวสวยต่อไปด้วยครับ
ตอนต่อไปเราจะนำผลิตภัณท์ต่างๆที่อ้างว่าได้ผล
ลดรอยเลือนแผลเป็นมาลงทีละตัว ให้มันรู้ไปเลยว่าจริงใจหรือไก่กา
อยากรู้กันมั้ยครับ?
แหล่งข้อมูล
•เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 31 พค. 2554
ห้ามนำบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ โดยผู้เขียนไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์ ให้นำไปเผยแพร่เป็นวิทยาทานหรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น ผู้ประกอบการเว็บไซต์ต้องยึดหลักความเคารพและคำนึงถึงลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์งานเขียนและจริยธรรมทางธุรกิจ
การนำเอาบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ ซึ่งผลิตขึ้นโดยผู้เขียนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและผลิตซ้ำเพื่อเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาและ
Copy url address ไปด้วยเพื่อให้ผู้อ่านสามารถลิ้งค์กลับมาอ่านบทความจากเว็บไซต์ของผู้เขียนได้โดยตรง
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้คุณนำไปใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณารับคำปรึกษาได้โดยตรงจากบุคลากรสหวิชาชีพทางสาธารณสุข รวมทั้งเภสัชกรใจดีที่พร้อมดูแลสุขภาพพ่อแม่พี่น้องนะครับ
· รูปประกอบจากอินเตอร์เนท http://www.compulsivestyle.com/wp-content/uploads/2012/04/main-beauty.jpg
· Medscape wound management center, http://www.medscape.com/resource/wound-management
· Nguyen, D.T., Orgill D.P., Murphy G.F. (2009). Chapter 4: The pathophysiologic basis for wound healing and cutaneous regeneration. Biomaterials For Treating Skin Loss. CRC Press (US) & Woodhead Publishing (UK), Boca Raton/Cambridge, p.25-57.
· Stadelmann W.K., Digenis A.G. and Tobin G.R. (1998).Physiology and healing dynamics of chronic cutaneous wounds. The American Journal of Surgery 176 (2) : 26S-38S. PMID9777970 Hamilton, Ont. B.C. Decker, Inc. Electronic book
· Midwood K.S., Williams L.V., and Schwarzbauer J.E. 2004.Tissue repair and the dynamics of the extracellular matrix. The International Journal of Biochemistry & Cell Biology 36 (6) : 1031-1037.
· Richard M Stillman, MD, Wound Care, WebMD LLC ,http://emedicine.medscape.com/article/194018-overview
· Jorge I de la Torre MD, Wound Healing, Chronic Wounds
, WebMD LLC, http://emedicine.medscape.com/article/1298452-overview
· Michael Mercandetti, MD, MBA, Wound Healing, Healing and Repair, WebMD LLC, http://emedicine.medscape.com/article/1298129-overview
· ผศ.นพ.สรวุฒิ ชูอ่องสกุล, แผลเป็น ,สาขาวิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง ภาควิชาศัลยศาสตร์, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=548
· นายแพทย์ทองดี ชัยพานิช , "Wound Healing Process" , ผู้อำนวยการราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย, การสัมมนาวิชาการการดูแลแผลเรื้อรังด้วยการแพทย์แบบผสมผสาน, โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๘ , สำนักการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
· นายแพทย์ บุญชัย ทวีรัตนศิลป์, Wound healing, หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่ง ภาควิชาศัลยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล