วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

Love your customers, Learn from your competitors โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล

อย่าได้แปลกใจไปเลยว่าทำไมปีนี้ 7-11 จึงเร่งขยายเป็น 4 ห้อง เพราะคู่แข่งเดิมๆแค่ Lotus Express, Top Daily ปีนี้ยังจะมี Maxvalu Tanjai เข้ามาอีก ในรูปแบบที่เป็นซูเปอร์มาร์เก๊ตเต็มรูปแบบ เพื่อต้อนรับการขยายตัวของเมืองและการติดขัดจากการจราจรที่คนเมืองต้องใช้เวลาอย่างมากในการไปช้อปที่ห้างใหญ่ๆ
ร้านยาเล็กๆ มักจะตีโพยตีพายว่าบ่นว่าคู่แข่งใหญ่โตกว่าจะมายึดตลาด เรามีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าไม่ว่ายักษ์ใหญ่หรือยักษ์เล็กก้อจะมีคู่แข่งมาท้าชิงเสมอ ในโลกใบนี้เสมือนการเล่นหมากล้อม เราไม่พัฒนา คู่แข่งเราก้อจะก้าวข้าวมาแย่งชิงพื้นที่เสมอและตลอดไป ในตอนนี้ เราจะมาพูดถึงการเรียนรู้จากคู่แข่งเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงร้านเราต่อไป
โลกใบนี้มีคู่แข่งเกิดใหม่เสมอ
ทุกองกรณ์มีคู่แข่งด้วยกันทั้งสิ้น ต่อให้มีอยู่เพียงสายการบินเดียว แต่สายการบินแห่งนั้นก็ต้องเจอกับคู่แข่งทางเลือกในการเดินทาง ได้แก่รถไฟ รถโดยสาร รถยนต์ จักรยาน และกระทั่ง ผู้คนที่อาจจะชอบมุ่งหน้าสู่ที่หมายด้วยการเดิน
ยิ่งประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้นเท่านั้น ในแทบทุกธุรกิจจะมีทั้งนักล่าปลาวาฬ ปลาฉลาม ปลาสิวปลาสร้อยอยู่มากมาย ในน่านน้ำแห่งการแข่งขันนี้ ทางเลือกก็คือจะล่าเหยื่อ หรือ จะยอมตกเป็นเหยื่อแทน
อย่างไรก็ตาม ใช่บริษัทของเราจะดึงดูดเฉพาะคู่แข่งขันที่ดีๆเท่านั้น มีคู่แข่งขันที่ดีก็เหมือนได้พรอันประเสริฐ เพราะคู่แข่งเหล่านี้จะเป็นเหมือน ครูที่ช่วยพัฒนามุมมองและขัดเกลาทักษะของเรา ต่างจากคู่แข่งระดับกลางๆ ที่บางครั้งก็น่ารำคาญ เช่นเดียวกับคู่แข่งแย่ๆ ที่สามารถสร้างความลำบากใจให้เราก้อได้

คู่แข่งไม่ใช่ศัตรู แต่เขาคือเพื่อนร่วมสนามการค้าเดียวกับเรา
ประโยคข้างบน นายกสมาคมร้าน คุณเทวัญ งามบุญสิน เล่าให้ผมฟังทุกครั้ง เมื่อบ่นถึงการรุกเข้ามาของคู่แข่ง ร้านยาเล็กก้อไม่ต่างกับบริษัทใหญ่ ที่ไม่ควรเพิกเฉยต่อคู่แข่ง แต่ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ รวมไปถึงการสร้างพันธมิตรของทำให้เราต้องตื่นตัวอยู่เสมอ
คิดดูดีๆแล้ว หากเรามีพันธมิตรคู่ค้าที่ดี เราก็จะได้เพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยม เราไม่ได้เป็นแค่หน่วยธุรกิจ แต่เป็นหุ้นส่วน เป็นเครือข่ายเป็นองค์กรที่ต้องการขยายขอบเขตออกไป การแข่งขันในทุกวันนี้เป็นการแข่งขันระหว่างเครือข่าย ไม่ใช่บริษัทหรือร้านเล็กๆ เครือข่ายที่มีความสามารถในการจับจุด เรียนรู้ และทำงานได้เร็วกว่า เป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการแข่งขัน
คู่แข่งที่แท้จริงคือใคร
ในระยะสั้น คู่แข่งที่น่ากลัวที่ของเราก็คือ องค์กรที่เหมือนบริษัทของเรามากที่สุดหรือร้านยาที่จับตลาดเดียวกันกับเรามากที่สุด ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะลูกค้าไม่อาจเห็นถึงความแตกต่างได้ ในความคิดของลูกค้า ร้านของเราก็เหมือนกับร้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกันนี่นา เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความแตกต่างให้ได้
วิธีเอาชนะคู่แข่ง คือ เราต้องจู่โจมตัวเราเองก่อน ทำงานให้หนักเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อแทนสินค้าที่อยู่ในสายการผลิตเดิม ก่อนที่คู่แข่งจะทำให้ร้านของเราเป็นของที่ล้าสมัยไป
คู่แข่งจากที่ไกล ก้อต้องระวัง
จับตาดูคู่แข่งที่อยู่ไกลออกไปเช่นเดียวกับคู่แข่งที่อยู่ใกล้ๆ เพราะบริษัทเราอาจจะถูกกลืนหายไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆมากกว่าคู่แข่งที่ทำอะไรเหมือนเราทุกอย่างเช่นกัน การแข่งขันที่ชี้เป็นชี้ตายส่วนใหญ่มักจะมาจากบริษัทเล็กๆที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์การแข่งขัน ตัวอย่าง IBM ที่เดินเกมผิดพลาดไป เพราะมัวไปกังวลกับ ฟูจิสึ มากกว่าบุคคลโนเนมอย่าง บิล เกตส์ ซึ่งสร้างซอฟต์แวร์ขึ้นมาในโรงรถของตัวเอง
การจับตาดูคู่แข่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่การมุ่งมั่้นต่อลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เพราะลูกค้าเป็นผู้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้ชนะสงครามธุรกิจไม่ใช่คู่แข่ง ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องเสียศูนย์ เพราะมีคนหาปลาจำนวนมากที่ออกล่าฝูงปลาฝูงเล็กๆ ชาวประมงที่เยี่ยมที่สุดเข้าใจธรรมชาติของปลาได้ดีกว่าคู่แข่ง เสมือนเภสัชกรที่เข้าใจคนไข้มากที่สุด ย่อมเป็นที่รักของลูกค้าและพร้อมพัฒนาร้านเพื่อให้คู่แข่งของเราต้องวิ่งตามเราต่อไป
แหล่งข้อมูล
·      How to Learn From Your Competition (and Steal All Their Best Ideas)
·      เจาะลึกการตลาด.blogspot.com , http://เจาะลึกการตลาด.blogspot.com/2010/12/competitors.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น