ถึงเวลาทำบุญโดยการถือศีลกินเจ มาถึงแล้ว
เราจะเห็นร้านอาหารปักธงสีเหลืองเป็นแถว ๆ ให้เราได้เริ่มกินเพื่อแสวงบุญ ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ หรือเลือกกินเพราะจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ไม่ว่าจะทานเจกันด้วยเหตุผลในเรื่องของสุขภาพ
ศาสนา หรือเพื่อความสุขทางใจก็ตาม เทศกาลอาหารเจก็สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกอิ่มใจ
เพราะได้ละเว้นจากการทำบาปจากการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ อาหารเจจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราอิ่มกายและอิ่มใจ
ทว่าหากอยากอิ่มกายอร่อยปาก ให้มีความสุขถูกโภชนาการ เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการอาหารเจกันสักหน่อย เพื่อที่เราจะได้เลือกทานอาหารเจให้เป็น อย่าลืมว่า แม้อาหาร เจจะเป็นอาหารสุขภาพ แต่ถ้าเราบริโภคไม่ได้สัดส่วน ไม่ถูกหลักโภชนาการ โอกาสที่ปัญหาสุขภาพ จะรุมเร้า ก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่ตัดสินใจกินเจระยะยาว
หลักโภชนาการของอาหารเจ จะมีหมุ่อาหารที่ประกอบไปด้วย...
1. หมุ่อาหารกลุ่มข้าว - แป้ง เผือกมัน อาหารกลุ่มนี้รวมถึงพวกเส้น ๆ ทั้งหลาย เช่น หมี่ซั่วผัด อาหารกลุ่มนี้ ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตซึ่งให้พลังงานปริมาณที่มากพอเหมาะในแต่ละมื้อประมาณ 2-3 ทัพพี แต่ถ้ามีอาหารว่าง ระหว่างมื้อด้วย ก็ต้องลดลงไปตามส่วน เพราะถ้าบริโภคมากเกินไป ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นของผัดที่ใช้น้ำมันมาก ๆ ต้องระวังและเลือกให้ดีนะครับ
2. หมุ่อาหารกลุ่มถั่วเมล็ดแห้ง พืชเมล็ด ให้โปรตีนเป็นหลัก และเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ใกล้เคียงเท่ากับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ดังนั้นในช่วงเทศกาลอาหารเจ เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองต่างๆ มากมาย นำมาทำเป็นอาหาร และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม อย่างนมถั่วเหลืองซึ่งก็เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเเหล่งของโปรตีนที่ดี ดื่มเพียงวันละ 2-3 แก้ว เราก็จะได้รับโปรตีนคุณภาพในปริมาณที่เพียงพอแล้ว และที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึง คือ งา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารเจ งาจะมีกรดอะมิโน และ กรดไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
3. อาหารกลุ่มผักผลไม้ อาหารเจที่ขายกันอยู่ทั่วไป ถ้าเป็นผักก็มักจะนำมาต้มจนเปื่อย หรืออุนซ้ำบ่อย ๆ จนทำให้สูญเสียวิตามินหมด จึงขอแนะนำว่า ควรได้รับผักสดบ้าง อาจทานเป็นผักจิ้มน้ำพริกเจก็ได้ เพื่อให้ได้วิตามินเพียงพอ ปริมาณผักที่ควรได้รับคือมื้อละประมาณ 2 ทัพพี สำหรับผลไม้ ควรทานทุกมื้อหลังอาหารหรือช่วงมื้อว่าง อาหารกลุ่มนี้ให้วิตามิน แร่ธาตุและใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
4. อาหารเจจะไม่มีอาหารรสจัด และ งดผัก 5 ชนิดคือ กระเทียม หอม หลักเกียว กุยช่ายและใบยาสูบ ซึ่งเป็นผักที่มีกลิ่นแรงที่มีเรื่องเล่าหลายตำนาน แต่ในสรรพคุณทางสมุนไพรแล้ว ผักเหล่านั้นมีกลิ่นแรงหรือมีน้ำมันหอมระเหยกลิ่นแรง เมื่อนกินเข้าไปทีจะมีผลต่ออวัยวะทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และทำให้จิตใจไม่สงบ จึงเป้นกุศโลบายให้เลี่ยงเสีย
ส่วนการเลือกอาหารเจ มีหลักง่ายๆ คือ ควรเน้นที่สีของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นถั่ว ผัก ผลไม้ ควรทานให้ครบ 5 สี คือ ขาว ดำ แดง เขียว เหลือง การกำหนดสีของผักนี้ เป็นภูมิปัญญาของคนเก่าคนก่อนที่ทำให้เราได้ความหลากหลาย และครบถ้วนของ สารอาหาร ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่จะให้สารอาหาร ครบถ้วน บางอย่างมีวิตามิน ชนิดหนึ่งมาก บางอย่างมีอีกชนิดมาก เมื่อทานอย่างหลากหลายก็จะได้ประโยชน์ ครบถ้วน ข้อควรระวัง คือ หลีกเลี่ยงอาหาร ที่ปรุงด้วยน้ำมันมาก ๆ และล้างผักให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร
หลักโภชนาการของอาหารเจ จะมีหมุ่อาหารที่ประกอบไปด้วย...
1. หมุ่อาหารกลุ่มข้าว - แป้ง เผือกมัน อาหารกลุ่มนี้รวมถึงพวกเส้น ๆ ทั้งหลาย เช่น หมี่ซั่วผัด อาหารกลุ่มนี้ ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตซึ่งให้พลังงานปริมาณที่มากพอเหมาะในแต่ละมื้อประมาณ 2-3 ทัพพี แต่ถ้ามีอาหารว่าง ระหว่างมื้อด้วย ก็ต้องลดลงไปตามส่วน เพราะถ้าบริโภคมากเกินไป ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นของผัดที่ใช้น้ำมันมาก ๆ ต้องระวังและเลือกให้ดีนะครับ
2. หมุ่อาหารกลุ่มถั่วเมล็ดแห้ง พืชเมล็ด ให้โปรตีนเป็นหลัก และเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ใกล้เคียงเท่ากับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ดังนั้นในช่วงเทศกาลอาหารเจ เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองต่างๆ มากมาย นำมาทำเป็นอาหาร และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม อย่างนมถั่วเหลืองซึ่งก็เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเเหล่งของโปรตีนที่ดี ดื่มเพียงวันละ 2-3 แก้ว เราก็จะได้รับโปรตีนคุณภาพในปริมาณที่เพียงพอแล้ว และที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึง คือ งา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารเจ งาจะมีกรดอะมิโน และ กรดไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
3. อาหารกลุ่มผักผลไม้ อาหารเจที่ขายกันอยู่ทั่วไป ถ้าเป็นผักก็มักจะนำมาต้มจนเปื่อย หรืออุนซ้ำบ่อย ๆ จนทำให้สูญเสียวิตามินหมด จึงขอแนะนำว่า ควรได้รับผักสดบ้าง อาจทานเป็นผักจิ้มน้ำพริกเจก็ได้ เพื่อให้ได้วิตามินเพียงพอ ปริมาณผักที่ควรได้รับคือมื้อละประมาณ 2 ทัพพี สำหรับผลไม้ ควรทานทุกมื้อหลังอาหารหรือช่วงมื้อว่าง อาหารกลุ่มนี้ให้วิตามิน แร่ธาตุและใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
4. อาหารเจจะไม่มีอาหารรสจัด และ งดผัก 5 ชนิดคือ กระเทียม หอม หลักเกียว กุยช่ายและใบยาสูบ ซึ่งเป็นผักที่มีกลิ่นแรงที่มีเรื่องเล่าหลายตำนาน แต่ในสรรพคุณทางสมุนไพรแล้ว ผักเหล่านั้นมีกลิ่นแรงหรือมีน้ำมันหอมระเหยกลิ่นแรง เมื่อนกินเข้าไปทีจะมีผลต่ออวัยวะทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และทำให้จิตใจไม่สงบ จึงเป้นกุศโลบายให้เลี่ยงเสีย
ส่วนการเลือกอาหารเจ มีหลักง่ายๆ คือ ควรเน้นที่สีของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นถั่ว ผัก ผลไม้ ควรทานให้ครบ 5 สี คือ ขาว ดำ แดง เขียว เหลือง การกำหนดสีของผักนี้ เป็นภูมิปัญญาของคนเก่าคนก่อนที่ทำให้เราได้ความหลากหลาย และครบถ้วนของ สารอาหาร ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่จะให้สารอาหาร ครบถ้วน บางอย่างมีวิตามิน ชนิดหนึ่งมาก บางอย่างมีอีกชนิดมาก เมื่อทานอย่างหลากหลายก็จะได้ประโยชน์ ครบถ้วน ข้อควรระวัง คือ หลีกเลี่ยงอาหาร ที่ปรุงด้วยน้ำมันมาก ๆ และล้างผักให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร
การกินเจควรเดินสายกลาง เลือกกินและปรุงให้เหมาะ ตลอดการกินเจ 9 วัน อาจทำให้ลดน้ำหนักได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้าทานแต่อาหารมัน ๆ น้ำหนักที่อยากลดก็อาจเพิ่มได้ เราเลือกได้ หากใครตั้งใจทานเจในช่วงนี้และต่อๆไป ถ้ามีโอกาส
ขอให้มีสุขภาพที่ดี ทั้งทางกายและใจ ตลอดไป
แหล่งข้อมูล
- กินเจเพื่อ “สุขภาพ”,สำนักงาน สสส.,
- โภชนาการ อาหารเจ, blog health today, http://www.healthtoday.eu/2010/10/13/โภชนาการถ-กว-ธ-ช-วงเทศกาลก-นเจ/
- ภาพประกอบจาก http://glitter.kapook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น