วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ดูแลผิวหน้าให้ใส ทำอย่างไร?


สาวๆหนุ่มๆหลายคนที่แวะมาที่ร้านยา มักจะมีปัญหาเรื่องผิวหน้า และมีคำถามเกี่ยวกับการดูแลผิวหน้ามาปรึกษาบ่อยๆ จะทำอย่างไร จะเชื่อใครดีน้า??? เรามีบทความจาก อาจารย์ พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย จากภาควิชาตจวิทยา, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ที่รวบรวมเคล็ดลับมาแนะนำกัน เพื่อให้หน้าใสสมวัยอย่างแท้จริงและคงงามตลอดไป

 การดูแลผิวพื้นฐาน

       โดยทั่วไปขั้นตอนการดูแลผิวพื้นฐานที่สำคัญและควรปฏิบัติในแต่ละวันเป็นประจำ มีเพียง 3 ขั้นตอนคือ 

1.ทำความสะอาดผิวหน้า 
2. ทาสารกันแดด และ ...
3. ทาสารให้ความชุ่มชื้น
      
ทำความสะอาดผิวหน้า
การทำความสะอาดใบหน้า มีความสำคัญมาก เนื่องจากในแต่ละวันจะมีสิ่งสกปรกมากมายที่ติดค้างอยู่บนใบหน้า ตั้งแต่ เหงื่อ ไขมันที่ถูกผลิตจากต่อมไขมัน ขี้ไคล ไปจนถึงบรรดาครีมเครื่องสำอางต่างๆ ที่ทา รวมถึงสิ่งสกปรกจากมลพิษภายนอกที่มาจากน้ำมัน
      
       การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า จะสามารถล้างเพียงเหงื่อและฝุ่นผงต่างๆ ที่ละลายน้ำได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถชำระล้างไขมันและน้ำมัน (ที่เป็นส่วนประกอบของครีมเครื่องสำอางต่างๆ ออกได้หมด) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบตามมาได้ 

ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีส่วนผสมของสารชะล้างที่อ่อนโยนและคุณภาพดีกว่า เช่น โฟม เจลล้างหน้า มากกว่าสบู่ก้อน เนื่องจากสบู่ส่วนใหญ่จะมีค่าเป็นด่างสูงกว่าค่าปกติของผิวหนังคนเราซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ เมื่อล้างด้วยสบู่ที่เป็นด่าง จะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นมากจนเกินไป เกิดผิวแห้งเป็นขุยได้ 

       ผิวแห้ง ผิวหน้ามักมีการผลิตไขมันได้น้อย ผิวจึงดูละเอียด มองไม่ค่อยเห็นรูขุมขน แต่ข้อเสียคือ ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวก็ลดตามไปด้วย ในระยะยาวจะเสียความยืดหยุ่นและเกิดเป็นริ้วรอยได้เร็วกว่าคนที่หน้ามัน ดังนั้นคนผิวแห้งไม่ควรใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับคนหน้ามันหรือคนเป็นสิว เนื่องจากจะมีส่วนผสมของสารชะล้างในปริมาณที่มากกว่า และมักผสมกรดซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดไขมันส่วนเกินในรูขุมขนและบนผิวหนัง ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ในคนที่ผิวแห้งอยู่แล้ว กรณีที่ผิวแห้งมากๆ ในตอนเช้าอาจล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าธรรมดาก็เพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนล้างหน้าเพราะจะทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้น
      
       ผิวมัน จะมีการผลิตไขมันออกมาปริมาณมากและมักเกิดเป็นสิวได้ง่าย ลักษณะผิวหน้าจะค่อน ข้างหยาบ รูขุมขนใหญ่เห็นได้ชัดเจน แต่ข้อดี ความชุ่มชื้นของผิวจะดีและเมื่ออายุมากขึ้นจะเกิดริ้วรอยช้ากว่าคนผิวแห้งค่ะ สำหรับการล้างหน้านั้นมีงานวิจัยออกมาว่า ในคนที่เป็นสิว การล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในเวลาเช้าและเย็น จะให้ผลการรักษาสิวดีที่สุด และไม่ควรเกินวันละ 2 ครั้ง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวและยิ่งทำให้สิวอักเสบรุนแรงมากขึ้น แต่ถ้าหน้ามันมากๆ เหนอะหนะจนทำให้รำคาญอยากล้างหน้าในระหว่างวัน แนะนำให้ล้างด้วยน้ำเปล่าค่ะ และถ้ายังรู้สึกว่าความมันยังไม่หมด ก่อนนอนอาจใช้โทนเนอร์ช่วยปรับสภาพผิวกำจัดความมันที่เหลือได้
      
       ผิวผสม มีการผลิตไขมันมากบริเวณทีโซน คือ หน้าผาก จมูก และคาง ส่วนบริเวณยูโซน แก้มกลับมีลักษณะผิวแห้ง แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งผิวมันและผิวแห้ง โดยแยกใช้ตามบริเวณลักษณะผิวที่แตกต่างกัน
      
       สำหรับผู้ที่แต่งหน้าเป็นประจำ ครีมรองพื้นทั่วไปจะมีส่วนผสมของน้ำมัน (เพื่อให้เม็ดสีของเครื่องสำอางสามารถติดทนนาน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องสำอางชนิดกันน้ำ การล้างหน้าด้วยสารชะล้างในผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถล้างน้ำมันเหล่านี้ออกได้หมด ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิว จึงควรใช้น้ำมันหรือโลชั่นเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกก่อนล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตามปกติค่ะ
       
นอกจากนี้ควรดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอด้วยครับ

แหล่งข้อมูลและภาพประกอบ 
อ.พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย, ภาควิชาตจวิทยา, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล, 
ดูแลผิวหน้าให้ใส สมวัย, http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000141884

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น