วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทำไมจึงเป็น?



โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นโรคที่พบบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย โดยเฉพาะในขณะนี้พบว่าโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ มีจำนวนคนไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองจากการประสบอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่าน เรามีบทความจากนพ.ระพีพล กุญชร ณ อยุธยา อายุรแพทย์โรคหัวใจมาให้ความรู้ความเข้าใจ ถึงอาการ ที่สำคัญของโรคนี้ ทำไมจึงเป็น ไว้คอยสังเกตุอาการของเราเองหรือคนที่เราใส่ใจ

หัวใจคนเราเป็นอวัยวะที่ต้องทำงานหนักที่สุดอวัยวะหนึ่ง หัวใจมีการเต้น การบีบตัวตั้งแต่แรกเกิดจนวินาทีสุดท้ายที่เราหมดลมหายใจ ดังนั้นหัวใจจึง ต้องมีหลอดเลือดซึ่งทำหน้าที่นำเลือดจากหลอดเลือดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย สารอาหาร พลังงาน และ ออกซิเจนไปเลี้ยง กล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อให้ กล้าม เนื้อหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะ ส่วนต่างๆของร่างกายได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ถ้ามี ปัญหาเกิดขึ้นกับหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจ ไม่ว่า จะเป็นการตีบหรือการอุดตันของหลอดเลือด ก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจที่ถูกหล่อเลี้ยง โดยหลอดเลือดนั้นขาดเลือดหรือตายไป ทำให้กล้ามเนื้อ หัวใจบีบ ตัวได้ไม่ดี ผลที่ตามมาคือหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยง อวัยวะต่างๆได้เพียงพอ และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
 
รูปประกอบ เส้นเลือดหัวใจตีบ จาก mayo clinic
เหตุใดหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงหัวใจจึงมีการตีบตัน

ถ้าจะเปรียบไปแล้ว หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงหัวใจก็เปรียบเหมือนกับท่อส่งน้ำหรือท่อระบายน้ำ ซึ่งเมื่อมีการใช้งานไปนานๆก็ย่อม เกิดการอุดตันขึ้น จากเศษตะกอนต่างๆ หลอดเลือดแดงของหัวใจก็เช่นเดียวกัน การตีบของหลอดเลือดแดงนั้น ส่วนหนึ่งเกิดเมื่อ คนเราอายุมากขึ้น โดยธรรมชาติ ผนังหลอดเลือดก็จะมีการหนาตัวขึ้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจึงเป็นโรคของผู้ใหญ่วัยกลางคน และวัยสูงอายุเป็นส่วนใหญ่ แต่ในคนบางคนมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ เมื่ออายุยังไม่มาก เนื่องจากมีปัจจัยบางประการที่ส่งเสริมให้ผนังหลอดเลือด มีการตีบและหนาตัวเร็วขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และบุหรี่ นอกจากนี้ ผู้ชายก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ มากกว่าผู้หญิง และผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วก็มีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงที่ยังมีประจำเดือนอยู่
ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดหัวใจตีบตันและทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือตายจะมีอาการอย่างใด

อาการที่สำคัญที่สุดคืออาการเจ็บ หรือแน่นหน้าอก เหมือนมีอะไรมาทับหรือบีบรัด อาการเตือนในระยะแรกๆคือ มีอาการ เจ็บแน่นหน้าอกขณะที่ออก แรงมากๆ เช่น เล่นกีฬา เดินขึ้นที่สูงๆ หรือเวลาออกไปเดินหลังจากทานอาหารอิ่ม เมื่อหลอดเลือด มีการตีบมากขึ้น อาการเจ็บหน้าอกก็จะเป็นได้ง่ายขึ้น เช่น เดินเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ขึ้นบันไดเพียง 1-2 ชั้น อาบน้ำเย็นๆ และสุดท้าย อยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรก็เจ็บหน้าอก อาการเจ็บหน้าอกที่เกิดจากกล้าม เนื้อหัวใจ ขาดเลือดจะเป็นอยู่นานเพียง 5-10 นาที เวลาพัก หรือ อมยาขยายหลอดเลือดแล้วจะดีขึ้น แต่อาการเจ็บหน้าอกที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย จะเจ็บรุนแรงกว่า นานกว่า อมยาขยาย หลอดเลือดก็ไม่ดีขึ้น และอาจมีอาการเหนื่อยหอบ เหงื่อแตกอย่างมากร่วมด้วย

นอกจากอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งเป็นอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันแล้ว ผู้ป่วยอาจมาด้วยเรื่องเหนื่อยง่าย เหนื่อยผิดปกติ ดังนั้น จึงใคร่ขอแนะนำ ให้ท่านผู้อ่านที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นไปขอรับการปรึกษาจากแพทย์ ซึ่งแน่นอนที่สุดถ้าผู้ป่วยมาพบแพทย์ในขณะ ที่อาการต่างๆยังไม่รุนแรงมาก โอกาส ในการรักษาให้ดีขึ้นก็สามารถกระทำได้โดยง่าย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงมากๆ อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร


รูปประกอบ: การรักษาการผ่าตัดต่อหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ   ใช้ลูกโป่งเพื่อขยายหลอดเลือดที่ตีบ จาก thaiheartclinic.com

การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันจะทำได้อย่างไร
ทั้งนี้และทั้งนั้นการรักษาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจะเหมาะสมกับผู้ป่วยรายใด ก็คงต้องอยู่ใน ดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา และ ความต้องการของผู้ป่วยด้วย
การรักษาอาจแบ่งง่ายๆเป็นการใช้ยา หรือ การผ่าตัดต่อหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ (เรียกว่าผ่าตัด "บายพาส") และ ใช้ลูกโป่งเพื่อขยายหลอดเลือดที่ตีบ
สุดท้ายนี้คงต้องควบคุมปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้หลอดเลือดตีบได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น การงดสูบบุหรี่ การลดน้ำหนัก และการควบคุมอาหาร การลดไขมันในเลือด และการควบคุมเบาหวานให้ดีด้วย


แหล่งข้อมูล

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
นพ.ระพีพล กุญชร ณ อยุธยา อายุรแพทย์โรคหัวใจ
http://www.thaiheartweb.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538924027&Ntype=2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น